ชื่อวิทยาศาสตร์ |
Tetracera indica (Christm. & Panz.) Merr. |
ชื่อวงศ์ |
DILLENIACEAE |
ชื่อสามัญ |
|
ชื่ออื่นๆ |
กรุงเทพมหานคร |
รสสุคนธ์แดง, อรคนธ์ |
ภาคใต้, นครศรีธรรมราช |
ย่านปด |
ชุมพร |
เครือปด |
ตรัง |
ย่านเปล้า |
ยะลา, ปัตตานี |
ปดลื่น |
|
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ |
ไม้เถาเนื้อแข็ง
ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีถึงรูปขอบขนานหรือรูปไข่กลับ กว้าง 3 - 5 ซม. ยาว 6 - 10 ซม. ปลายใบมนถึงแหลม โคนใบแหลม
ดอกช่อ แบบช่อแยกแขนง ออกที่ปลายยอด กลีบเลี้ยง 4 กลีบ กลีบดอก 4 กลีบ สีขาวแกมชมพู เกสรเพศผู้จำนวนมาก ปลายก้านชูอับเรณูสีแดง
ผลแห้ง แตกแนวเดียว คล้ายทรงกลม มีจะงอย เมล็ดมีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดงสด |
ประโยชน์ทางยา |
ลำต้นหรือราก |
ผสมรากส้มกุ้ง เหง้าสับปะรด ลำต้นไผ่ป่า ลำต้นไผ่ตง งวงตาล เปลือกต้นสะแกแสง ลำต้นหรือรากเถาคันขาว ผลมะพร้าว ลำต้นรักดำ ลำต้นก้อม ลำต้นโพ หญ้างวงช้างทั้งต้น รากกะตังใบ เปลือกต้นมะม่วง ลำต้นหนามพรม รากลำเจียก ลำต้นอ้อยแดง ลำต้นเครือพลูช้าง เหง้ายาหัว และเปลือกต้นกัดลิ้น ต้มน้ำดื่ม แก้อาการบวม แก้ฝี |
ราก |
ต้มน้ำดื่ม ขับปัสสาวะ |
ดอก |
เข้ายาหอมบำรุงหัวใจ แก้ลม มักใช้คู่กับรสสุคนธ์ |
|
DNA barcode |
ตัวอย่าง
|
รูปภาพ |
|
เอกสารอ้างอิง |
มูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดล. (2548). สารานุกรมสมุนไพร เล่ม 5 สมุนไพรพื้นบ้านอีสาน. หน้า 158. |
|
|
|